ต่อมาจาก เที่ยวคนเดียว นั่งรถเมล์ชิวๆ จาก Salzburg ไปเมืองในฝัน Hallstatt ปาล์มยังมีภาคต่อของเที่ยว Hallstatt และยังคง เที่ยวคนเดียวต่อไป ( สำหรับใครจะไปเป็นเป็นกลุ่ม หา ทัวร์ Hallstatt ราคาถูก บินตรง ไม่เกิน 5 หมื่นบาท! ได้ที่นี่ค่ะ ) .. ปาล์มเดินทางมาถึง สถานีรถไฟ Bad Ischi แล้วก็ รีบมองหา ตารางรถไฟ และแล้วก็เจอป้ายนี้ค่ะ
(ตามตาราง เส้นทางที่ปาล์มกำลังจะไป คือ เส้นทางตามลูกศรสีเขียว)
เช็คตารางเวลาเสร็จแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วรถไฟ แล้วออกเดินทางกันได้เลยค่ะ ปาล์มเริ่มออกเดินทางเวลา 10.20 น. จากตารางคาดว่าจะถึงสถานี Hallstatt เวลา10.48น
ภาพข้างบน จากเว็บ rome2rio.com
ระหว่าง นั่งอยู่บนรถไฟไป Hallstatt ก็จะผ่านเมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา หากใครไม่ได้หลับบนรถไฟ ก็มีอะไรให้ชมเพลินๆตลอดทางค่ะส่วนตัวปาล์มนั้น ด้วยความเดินทางไม่ได้หยุดสักวัน ก็มีงีบบ้าง ฮ่ะๆ นั่งแบบหลับๆตื่นๆ เผลอแป๊บเดียว .. รถไฟ (สีขาวแดง ในภาพข้างล่าง) ก็พาปาล์ม ผ่านหุบเขา แม่น้ำ มาจนถึงสถานี Hallstatt ดีนะ ที่ตื่นก่อนถึงสถานี พอดิบ พอดีเลย .. อีป้าเกือบหลับเลยป้ายแล้วมั้ยล่ะ ดูเวลาก็ประมาณ 11.50น. ใช้เวลาไปทั้งหมด ครึ่งชม. ค่ะ .. การมา เที่ยวคนเดียว ก็ต้องระวังหน่อย เวลาหลับเลยป้ายนี่ไม่มีใครช่วยเตือนนะคะ อาจจะเงิบยิ่งยาวเลย
หลังจากนี้เราก็จะเดินลงไปซื้อตั๋วตรงที่ท่าเรือ เพื่อข้ามฝากไปยังฝั่ง Hallstatt กันค่ะ จากตรงท่าเรือ เราก็จะมองเห็นเมือง Hallstatt อยู่ลิบๆ วันนี้เป็นวันอากาศดี ลมเย็น แต่ก็มีแสงแดด ส่อง พอให้อุ่น และเห็นสีสันของฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสี
อุ้ย เรือข้ามฝากของเรากำลังจะมาถึงแล้ว อีป้า คนนี้ ตื่นเต้นจุง จะได้ไปเหยียบบน เมือง Hallstatt แล้ว
วันนี้ ค่อนข้างวุ่นวายเล็กน้อย ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว เพราะนั่งท่องเที่ยวเยอะมาก บนเรือก็วุ่นอยู่เหมือนกัน เพราะใครๆก็พยายามเดินหามุมดีๆถ่ายรูปกัน แต่อย่างไรก็ดี สุดท้าย เรือก็นำพาเรามาถึง … เมือง Hallstatt เวลานี้ก็ประมาณ 11.25น. แดด กำลังอุ่นๆ เลย 🙂
แสงแดดอุ่นๆ กับ ลมเย็นๆที่มาปะทะ บรรยากาศมันช่างผ่อนคลาย ..ชิลสุดๆ ว่าแล้วปาล์มก็ นั่งหย่อนขา ชมวิว กินบรรยากาศตรงนี้สักแพ็พ
ระหว่างนั้น ก็เห็น น้องเป็ด และ น้องห่าน แห่ง Hallstatt มาต้อนรับ (อันนี้จิ้นเอาเอง ว่าพวกนางมาต้อนรับเรา ฮ่ะๆ)
นั่งชมวิวเพลินๆ แล้วเราก็เหลือบไปเห็น น้องห่านตัวนี้ กำลังสยายปีกพอดีเลย
สำหรับทริปนี้ ปาล์มไม่ได้วางแผน ว่า จะมาทำอะไรบ้างที่นี่ คิดแค่ว่า ไปให้ถึงเมืองนี้ก็พอ ฮ่ะๆ .. ถือว่าเป็นทริป เน้น แค่ว่าไปให้ถึง ส่วนจะทำอะไรต่อก็ ด้นสดเลยคร่า
แผนที่เมือง ก็ไม่มี เลยคิดว่า ถามประชาสัมพันธ์เอาล่ะกัน พอมองไปจุดประชาสัมพันธ์ .. วันนี้ประชาสัมพันธ์ปิดคร่า! ฮ่ะๆ ไอ่เราก็เป็นคนแจ็คพ๊อตแบบนี้ตัลหลอดเลย…
จากนั้น ตามโบราณท่านว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็หลิ่วตาตาม” เหลียวซ้าย มองขวา แล้วเดินตามคนข้างหน้าไป ฮ่ะๆ..
หลังจากเดินตามไป เขาก็แยกออกเป็น2กลุ่ม แล้วเดินไปกันคนละทาง อ้าว! แล้วเราจะไปทางไหนดีล่ะ ..
คราวนี้ ถึงตาที่ต้องพึ่งตัวเองล่ะ.. และแล้วเราก็นึกออกได้ว่ามันมี ‘มุมยอดฮิต ของ Hallstatt’ ที่ถ่ายลงมาเห็นโบสถ์ตรงท่าเรือ มันต้องเดินขึ้นเขาไปทางขวามือ เป็นแน่แท้ พอมองไปทางขวามือ สิ่งที่เห็นคือ ..
เห็นทางเข้ามืดๆ แบบนี้ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ ว่า จะเข้าไปดีมั้ย ลองมองหาป้ายแถวนั้น ก็ไม่มีป้ายชี้บอกว่าทางนี้จะนำพาไปไหนกัน แต่สุดท้าย เราก็ตัดสินใจตามเข้าไปทางนี้ล่ะกัน ถ้าการความจำเราไม่ผิดพลาด มันต้องทางนี้แน่ๆเลย .. พอเดินผ่านทางมืดๆมา ก็จะมาโผล่ตรง โซนที่พักอาศัย บนเนินเขา
เจอบ้านหลังนี้ ไม้เลื้อย สวยจัง -^___^-
เดินขึ้นไปสักพัก เราก็จะเริ่มเห็นหลังคาโบสถ์ที่ท่าเรือ ของเมือง ล่ะ
ยืนหยุดชมธรรมชาติ รับลมเย็นๆ กระทบหน้า .. มองดูเจ้าผีเสื้อตัวน้อยกันสักแป๊บ
และเดินขึ้นไปอีกนิด อีกนิด นะ .. เราก็จะได้เห็น ‘มุมยอดฮิตของ Hallstatt’
ว่าแล้ว ก็ขอ Selfie สักนิด กับ วิวยอดฮิต ล่ะกันนะฮับ 🙂
เราขอออกตัวก่อนเลยว่า เรานี่ถ่ายรูปไม่ค่อยเป็น แต่ด้วยความที่วิวของเขาดีจริงๆนะ ถ่ายอะไรมาก็สวย 🙂 ประทับใจมากๆเลย ..
ด้วยความที่ หลังจากนี้ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี เลยตัดสินใจนั่งปิคนิค กินแซนวิช กับ ช็อคโกแลต ชมวิวบนนี้ซะเลย ดูเวลาอีกทีก็ บ่ายโมงซะล่ะ เวลาผ่านไปเร็วจังเลยน้า…. ได้เวลา เดินลงไปชมเมืองข้างล่างนั่นบ้างแล้วล่ะ
ก่อนอื่นขอเช็ค รอบเรืออีกครั้ง จะได้ไม่ตกเรือ ตกรถไฟ ตกรถเมล์ กลับ Salzburg (ฮ่ะๆ ตกทุกอย่าง เป็นโดมิโน่เลย นึกถึงเพลงนึงของ Buddha bless “ตกเครื่องบิน ตกโต๊ะ ตกเตียง ตกตู้ ตกสอบ สอบตก ให้คางคกกัด ให้งูรัด ให้โดนพัดลมบาดมือ”)
จากตารางเวลา ปาล์มกะว่า จะกลับสักสี่โมงเย็น ดังนั้น ก็มีเวลาให้เดินเล่นชิวๆที่นี่อีก 2 ชม. โอ้ยเหลือเฝือค่ะ …. แต่ที่คิดอย่างงี้ ก็เพราะ ไม่รู้ว่าในเมืองนี้ยังมีที่ๆน่าสนใจอีกที่ นั่นคือ เหมืองเกลือเก่าแก่
จากจุดนี้เราสามารถซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า ไปชม เหมืองเกลือและวิวจากมุมสูงได้
พอเดินไปถึงจุดนี้ เวลาก็ปาไป ประมาณบ่ายสามโมง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า เหลือโซนให้ชมแค่โซนเดียวแล้ว
ไอ่เราก็มีบัตร Salzburg Card ซึ่งสามารถใช้เป็นส่วนลดได้ แต่ต่อให้ลดแล้ว ราคาตั๋วก็ยังประมาณ 20 EUR เราก็เลยตัดใจ ไว้มาคราวหน้าล่ะกัน (ถ้าเก็บเงินมาใหม่ได้อีกรอบนะ) (ดังนั้นใครต้องการจะมาชมเหมืองเกลือที่นี่ ให้มาก่อนบ่ายสองนะคะ ยังพอมีเวลาให้ชมเหมืองอยู่)
ย้อนกลับมา ก่อนไปถึงทางขึ้นเหมือง เราก็เดินลั่นล้า ชมเมือง ชิวๆไปเรื่อยๆค่ะ จากจุดที่เราลงเรือ จะมีโบสถ์นี้ตั้งอยู่ เราสามารถเดินเข้าไปชมได้ฟรีค่ะ เป็นโบสถ์เล็กๆ ของเมือง
แอบถ่ายน้องแมวเจ้าถิ่นมาด้วย ทำสายตาเหล่มาทางเราพอดีเลยฮ่ะๆ
ผ่านตรงนั้นมา เราก็จะเจอโซนนี้ค่ะ
ถ้ามองตรงไปที่บ้านขาวๆด้านบนสุด จะเห็นแนวหินอยู่ตรงขวามือของบ้าน
ตรงนั้นคือน้ำตก อุ๊! มีน้ำตก ตรงกลางเมือง Hallstatt ด้วย
จากจุดที่ปาล์มยืนอยู่ด้านล่างตรงนี้ ก็มีร้านขายของตลอดทาง
สิ่งที่ปาล์มชอบ กับการมาเที่ยวต่างถิ่น อีกเรื่องนึง คือ ต้นไม้ ดอกไม้ พืชพันธุ์ต่างๆ ที่แตกต่างออกไป นี่แหละค่ะ
จากภาพข้างบน ด้านซ้ายมือจะเป็นร้านอาหารริมน้ำ.. มาดูบรรยากาศกันค่ะ น่านั่งมากเลยยย…
เดินต่อไปจะเป็นโซน สวนสาธารณะของเมือง ให้คุณได้นั่งกินบรรยากาศ ชมความงามของทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา
จากตรงนี้เราสามารถมองย้อนกลับไป ชมโซนของโบสถ์ก่อนหน้านี้ได้ค่ะ
หลังจากนี้ เราก็เดินชมเมืองต่อไป เพลินดีค่ะ Hallstatt เป็นเมืองเงียบสงบ เหมือนไม่มีคนอยู่เลย
จากจุดนี้ไป เราก็เดินถึงจุดขายตั๋ว ขึ้นเหมือง พอดี อย่างที่เล่าไปข้างบน .. สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไม่ขึ้นเหมือง
เหลือบดูเวลา ตอนนี้ประมาณบ่ายสามนิดๆล่ะ ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี เลยเดินกลับมาตรงสวนสาธารณะ ดูคนเดินไป เดินมา แล้วก็ชมวิว .. ที่นี่มีเรือให้เช่าด้วย เรือเป็ดก็มีนะจ๊ะ
สูดลมหายใจกับอากาศดีๆ ให้เต็มปอด นั่งดื่มด่ำ กินบรรยากาศ ครั้งสุดท้าย ก่อนเดินทางกลับ
นั่งชมวิวเพลินๆ มองดูนาฬิกา โอ้ว จะบ่านสี่โมงแล้ว!!! รีบเดินจ้ำๆ กลับมาที่ท่า เรือ.. ทันเวลาขึ้นเรือ พอดีเลยล่ะ .. อ้า ต้องโบกมือลา Hallstatt ซะแล้ว
พอขึ้นเรือ เราก็กวาดตาดูวิว เมือง Hallstatt เป็นครั้งสุดท้าย
และแล้วทริป ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวันของฉัน ที่ Hallstatt ก็จบลง ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
Leave a Reply